 |
บริเวณบ้านคำฮุย ปัจจุบันเป็นวัดศรีสว่างคำฮุย |
ประวัติความเป็นมาของบ้านคำฮุย ( คุ้มคำฮุย )
บ้านคำฮุย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๐๑๒ เดิมทีในอดีตคำฮุยเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะมีหนองน้ำขนาดใหญ่ ( ชื่อหนองคำฮุย ) เป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้านในคราวครั้งอดีต เดิมชาวบ้านคำฮุยมีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่เมืองมหาชัย ประเทศลาวโดยมีนายศรีสว่าง ( ไม่ทราบนามสกุล ) เป็นหัวหน้าในการนำมาเมื่อปีพ.ศ.๒๐๐๒ โดยประมาณ มีพรรคพวกมาด้วยกัน ประมาณ ๑๐ ครอบครัวมาตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้หนองน้ำคำฮุย เรียกกันตามภาษาท้องถิ่น ในปีเดียวกัน ก็ได้ขยายบ้านเรือนออกไป ๑๕ ครอบครัว แต่ก็ยังขาดผู้ปกครองจึงพร้อมใจกันจัดเลือกหาผู้ปกครองท้องถิ่นขึ้นโดยได้นายศรีสว่างเป็นกวานบ้านขึ้น (คือเป็นผู้ใหญ่บ้าน )ตามภาษาลาวเขาเรียกกัน ได้พร้อมใจกันพัฒนามาโดยลำดับ แต่ยังขาดวัดวาอารามจึงได้พร้อมใจกันสร้างวัดขึ้น มีกุฏิ ๑ หลังพอสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วไม่มีพระเณรที่จะอยู่จึงได้กลับไปประเทศลาวซึ่งเป็นบ้านเดิม ได้นิมนต์พระขันธ์ ( ไม่ทราบฉายา ) พร้อมกับสามเณร๒ รูป ในปีพ.ศ.๒๐๓๖หลังจากนั้นอีกประมาณ ๑๐ ปี ก็ได้พร้อมใจกันก่อสร้างสิม ( พระอุโบสถ ) โดยยกพื้นพูนดิน หลังคามุงกระดานไม้แดง เสร็จเมื่อประมาณปีพ.ศ.๒๐๔๖ มีการผูกพัทธสีมา ฝังลูกนิมิตขึ้นในปีนั้นเอง
รายนามพระสงฆ์ที่เป็นเจ้าอาวาสในบ้านคำฮุย
รูปที่๑.พระขันธ์พ.ศ.๒๐๓๖ – ๒๐๖๖
รูปที่๒.พระเสือพ.ศ.๒๐๗๖ - ๒๑๐๐
รูปที่๓.พระโชตพ.ศ.๒๑๐๐ – ๒๑๒๐
รูปที่๔.พระศรีจันทร์พ.ศ.๒๑๒๐ – ๒๑๕๖
รูปที่๕.พระสัมมาพ.ศ.๒๑๕๖ – ๒๑๗๑
รูปที่๖.พระจูมทองพ.ศ.๒๑๗๑ – ๒๑๙๕
รูปที่๗.พระเคนพ.ศ.๒๑๙๕ – ๒๒๑๐
รูปที่๘.พระบุญมีพ.ศ.๒๒๑๐ – ๒๒๓๐
เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นที่บ้านคำฮุย จึงทำให้บ้านคำฮุยกลายเป็นบ้านร้าง คือเกิดโรคระบาด ( โรคห่า ) ขึ้นภายในหมู่บ้าน โดยชาวบ้านคิดว่าเกิดจากบางคนทำผิดผีเพราะคนในสมัยนั้นยังคงมีความเชื่อและนับถือ ภูต ผี ปีศาจ ควบคู่ไปกับความเชื่อทางศาสนาไปด้วยจึงคิดว่าผีมาฆ่าคนในหมู่บ้านตาย จึงพากันอพยพหนี ไปประเทศลาวบ้าง ไปตั้งถิ่นฐานใหม่บ้างและล่มสลายในปี ๒๔๑๔ โดยในปัจจุบันนี้มีหมู่บ้านเกิดขึ้นถึง ๖ หมู่บ้าน มีดังนี้บ้านหนองแข้ บ้านป่าขาว บ้านลาดค้อ บ้านม่วงไข่ บ้านลาดดู่ บ้านลาดดู่โคกโดยทุกหมู่บ้านพูดภาษาย้อเป็นภาษาหลักในการสื่อสารกันและภาษาเขียนมีภาษาลาวอิสาน ภาษาขอม ภาษาธรรม และ ประเพณีเลี้ยงผีโบราณในเดือน ๔
ประวัติหมู่บ้านป่าขาว
บ้านป่าขาวถิ่นเดิมคือบ้านคำฮุย ห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร บ้านคำฮุยอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้านป่าขาว
บริเวณบ้านคำฮุย ปัจจุบันเป็นวัดศรีสว่างคำฮุย
สมัยนั้นบ้านคำฮุยเดือดร้อน ผู้คนเจ็บไข้ได้ป่วย ล้มตายเป็นจำนวนมาก เพราะเกิดโรคระบาดมีคนตายวันละ 5 - 10 คน ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัว จึงแตกแยกไปคนละทิศละทาง และล่มสลายในปี 2414
ในปี พ.ศ.2414 นี้เอง มีนายคำภู หรือนายคำภูวงศ์ ปาระคะ กว้านพี่น้องมาตั้งบ้านอยู่ที่บริเวณปัจจุบัน ในบ้านนี้มีไม้ขาวมากที่สุด เลยตั้ชื่อหมู่บ้านว่า บ้านป่าขาว ซึ่งบรรณพบุรุษผู้ก่อตั้งบ้านป่าขาวคือคือนายคำภูวงศ์ ปาระคะ และเป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของบ้านป่าขาวจึงถือได้ว่าเป็นต้นตระกูล “ปาระคะ”ในปัจจุบัน
ในการมาตั้งถิ่นฐานครั้งแรกมี 14 ครอบครัว ประชากรในตอนนั้น 61 คน เป็น ชาย 28 คน หญิง 33 คน
ในขณะนั้นมีคนที่มาตั้งบ้านอยู่ด้วยคือ
1.นายคำภูวงศ์ ปาระคะ มีลูกมาด้วย 4 คน คือ 1.นางบัว 2.นางมา 3.นายแพง 4.นายพา ปาระคะ ส่วนเมียนายคำภูวงศ์ตายตั้งแต่อยู่บ้านคำฮุยแล้ว
2.นายทิศสอน เมียชื่อนางสี ปาระคะ มีลูกมาด้วยคือ 1.นายแต 2.นายแล ส่วนน้องของนางสีที่มาด้วยกันคือ 1.นายสงกาค์ 2.นางชา 3.นายชอน 4.นายไสย 5.นางเชาะ
3.นายสิงห์ เมียชื่อนางบาง ปาระคะ มีลูกมาด้วยกัน 6 คน คือ 1.นางสอน 2.นายช้อน 3.นายสี 4.นางส่อย 5.นายยอย 6.นางโด้ง
4.นายพวง เมียชื่อนางพา มีลูกมาด้วยคือนางกา
5.นายสา เมียชื่อนางพันมหา โสมนาม มีลูกมาด้วยคือนายล้อย
6.นายเชียงกันญา เมียชื่อนางแพง ปาระคะ และมีลุงจารย์เสือและลูกมาด้วยคือนางเข็มและนางเทียน
7.นางบ็อกแม่นางออ ส่วนพ่อตายตั้งแต่บ้านคำฮุย
8.นายทิศสุภา เมียชื่อนางอ่อน ปาระคะ มีลูกมาด้วยคือนางหนู ส่วนนางไอ่น้องของนางอ่อนก็มา
9.นายคำพอง เมียชื่อนางพิมพ์ มีนางดวงพี่ของนางพิมพ์มาด้วย
10.นายเชียงบาน กับเมียชื่องนางครอง
11.นายทิศพล เมียชื่อนางหล่า โสมนาม มีน้องของนางหล่ามาด้วยคือ 1.นางสิม 2.นางตั้น 3.นายคำ ปาระคะ
12.นายชาลี เมียชื่อนางพอง โสมนาม
13.นายชม เมียชื่อนางมูย โสมนาม มีลูกมาด้วยคือนางหมองและนางจันทร์ กับนายเชียงมาด้วย
14.นายจารย์แสง เมียชื่อนางอุ่น ปาระคะ มีลูกมาด้วยคือ 1.นางลี 2.นางนีกา